โรคปากเบี้ยว (bells palsy)  | 
    |
![]()  | 
    |
คนบางคนอยู่ๆตื่นขึ้นตอนเช้าก็รู้สึกตกใจที่พบว่ามีอาการปากเบี้ยวข้างหนึ่ง โดยที่แขนขาแข็งแรงเป็นปกติ แล้วอาการจะค่อยๆดีขึ้น จนหายเป็นปกติได้ อาการดังกล่าวนี้เรียกว่า โรคปากเบี้ยว เกิดจากกล้ามเนื้อบริเวณใบหน้าอัมพาตไปครึ่งซีก ภาษาหมอเรียกว่า อัมพาตปากเบี้ยว (facial palsy) บ้างก็เรียก เบลล์พัลซี (bells palsy)  | 
    |
สาเหตุ              เป็นเพราะเส้นประสาทสมองเส้นที่ 7  ที่เรียกว่า เส้นประสาทใบหน้า(facial nerve) เกิดการอักเสบ  ซึ่งจะเป็นเพียงข้างใดข้างหนึ่งเท่านั้น  ทำให้กล้ามเนื้อใบหน้าทั้งซีกที่เส้นประสาทนั้นไปเลี้ยงเกิดอาการอัมพาตชั่วคราว  แล้วก็ค่อยๆฟื้นตัว เมื่ออาการอักเสบหายสนิทกล้ามเนื้อส่วนนั้นก็กลับมาทำงานได้ตามปกติ       ส่วนอะไรทำให้เส้นประสาทใบหน้าเกิดการอักเสบยังบอกไม่ได้แน่ชัด  บางคนอาจพบว่าเป็นหลังจากตากลม หรือถูกอากาศเย็น ส่วนน้อยที่อาจมีสาเหตุชัดเจน  เช่น  พบร่วมกับโรคงูสวัดที่ขึ้นบริเวณใบหน้าหรือตรวจพบว่ามีโรคเบาหวานหรือความดันเลือดสูงร่วมด้วย  หรืออาจเกิดขึ้นภายหลังจากการได้รับบาดเจ็บตรงบริเวณใบหน้า เป็นต้น  | 
    |
รู้ได้อย่างไรว่าไม่ได้เป็นโรคอื่น              โรคนี้มีลักษณะเฉพาะ คือ  อยู่ๆก็สังเกตว่ามีอาการปากเบี้ยวไปข้างหนึ่ง กลืนน้ำหรือบ้วนปากจะมีน้ำไหลออกที่มุมปากข้างนั้น เวลายิ้มหรือยิงฟันจะเห็นมุมปากข้างนั้นตก ขณะเดียวกันก็พบว่าตาข้างเดียวกับข้างที่ปากเบี้ยวจะไม่สามารถปิดให้มิดได้  และคิ้วข้างนั้นก็ยักไม่ได้ แต่แขนขายังแข็งแรงเป็นปกติ  สามารถทำงานได้ตามปกติทุกอย่าง และพูดคุยได้ชัดเจนเหมือนเดิม ถ้าอยู่เฉยๆคือไม่พูดไม่ยิ้ม ไม่หลับตาและยักคิ้วก็จะดูไม่ออกว่ามีอาการผิดปกติ   | 
      ![]()  | 
    
เมื่อไรควรไปพบแพทย์ ผู้ที่มีอาการปากเบี้ยวควรไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อสืบสาวหาสาเหตุให้แน่ชัด แพทย์จะทำอะไรให้ แพทย์จะตรวจให้แน่ชัดว่าไม่ได้เป็นโรคอัมพาตของแขนขาครึ่งซีก ในรายเป็นโรคปากเบี้ยวอาจตรวจหาสาเหตุซ่อนเร้น เช่น เบาหวาน ความดันเลือดสูง ถ้าพบก็จำเป็นต้องรักษาโรคเหล่านี้ไปพร้อมกัน สำหรับผู้ที่เป็นโรคปากเบี้ยวที่ตรวจไม่พบสาเหตุแน่ชัด แพทย์จะให้ยากลับไปรักษาที่บ้านดังนี้ 
 คนไข้ควรสังเกตดูอาการที่เปลี่ยนแปลงทุกวัน จะพบว่าภายใน 1-2 สัปดาห์ กล้ามเนื้อใบหน้าตอนบนจะเริ่มฟื้นตัวได้ก่อน กล่าวคือจะยักคิ้วและปิดตาได้มากขึ้น ส่วนอาการปากเบี้ยวจะทุเลาทีหลัง ดังนั้นคนไข้ควรทำท่ายักคิ้วและหลับตาดูทุกวันเมื่อเริ่มสังเกตว่าทำได้แล้วก็แสดงว่ามีโอกาสหายได้ในเร็ววัน ในรายที่เป็นมากหรือฟื้นตัวช้า แพทย์อาจแนะนำให้รักษาด้วยวิธีกายภาพบำบัดเพิ่มเติม เช่น ใช้ไฟฟ้ากระตุ้นกล้ามเนื้อที่เป็นอัมพาตเพื่อช่วยให้ฟื้นตัวเร็วขึ้น บางรายอาจจำเป็นต้องแก้ไขด้วยการผ่าตัด โดยสรุป โรคปากเบี้ยวเกิดจากกล้ามเนื้อใบหน้าซีกหนึ่งไม่ทำงาน เนื่องจากเส้นประสาทใบหน้าข้างนั้นเกิดการอักเสบ โดยไม่ทราบสาเหตุเป็นส่วนใหญ่ เป็นโรคที่ไม่มีอันตราย จะหายได้เองภายใน ๒-๘ สัปดาห์  | 
    |
![]()  | 
    |
การดูแลรักษาตนเอง เมื่อสงสัยว่าเป็นโรคปากเบี้ยว ถึงแม้แขนขาจะเป็นปกติดี(แน่ใจว่าไม่ได้เป็นโรคอัมพาตของแขนขาครึ่งซีก) ก็ควรจะไปพบแพทย์ภายใน 24 ชั่วโมง เพื่อตรวจหาสาเหตุที่อาจซ่อนเร้นอยู่ และรับการรักษาจากแพทย์เพื่อช่วยให้อาการฟื้นตัวเร็วขึ้น แล้วควรปฏิบัติตัวดังต่อไปนี้ 
  | 
    |
    Produce by   Medical Service Department
สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร เลขที่ 514          ถนนหลวง เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพฯ 10100          โทร. 0-2224-2954 , 0-2224-9711 , 0-2221-6020 , 0-2225-4966          โทรสาร 0-2226-1931 , 0-2221-6029 
      
      ติดต่อ Webmaster : webmaster@msdbangkok.go.th